17 มิถุนายน 2568 – ผลบอล7m หลังใช้เวลา 7 ปีสร้างความสำเร็จอย่างน่าทึ่งกับเบรนท์ฟอร์ด ในที่สุด โธมัส แฟรงค์ ผู้จัดการทีมชาวเดนมาร์ก วัย 51 ปี ก็ตัดสินใจก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ แทนที่ อังเก้ พอสเตโคกลู ที่ถูกปลดออกไปอย่างช็อกวงการ แม้จะเพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปรายการสำคัญเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี แต่ผลงานในพรีเมียร์ลีกที่จบเพียงอันดับ 17 กลับนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
แฟรงค์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่คุมทีมยาวนานเป็นอันดับสองในพรีเมียร์ลีกรองจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเผชิญหน้ากับความท้าทายรอบด้าน ณ สโมสรที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของแฟนบอล
ภารกิจสำคัญของโธมัส แฟรงค์:
1. การเสริมแกร่งและปรับสมดุลทีม: สเปอร์สตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสบการณ์ให้กับทีมอายุน้อยในปัจจุบัน แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร เล็งเห็นถึงความเข้าขาของแฟรงค์กับ โยฮัน ลันเก้ ผู้อำนวยการด้านเทคนิค ซึ่งมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการเฟ้นหานักเตะที่จะพาทีมก้าวหน้า
- เป้าหมายหลัก: สโมสรกำลังมองหากองกลางตัวกลางและกองหลังตัวกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางกระแสข่าวความสนใจจากสเปนที่มีต่อ คริสเตียน โรเมโร่ (แม้ยังไม่มีทีมใดพร้อมจ่าย 70 ล้านปอนด์) มาร์ค เกฮี กองหลังพาเลซยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ และสเปอร์สยังจับตามองตลาดแนวรุก หลัง ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมตกเป็นข่าวกับซาอุดีอาระเบีย โดยมีรายงานว่า ไบรอัน เอ็มเบอูโม่ อดีตลูกทีมของแฟรงค์ที่เบรนท์ฟอร์ด และ เอเบเรชี่ เอเซ่ จากคริสตัล พาเลซ (ค่าฉีกสัญญา 68 ล้านปอนด์) เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ
- การจัดการผู้เล่นปัจจุบัน: สโมสรกำลังพิจารณาอนาคตของ มาธิส เทล ที่ยืมมาใช้งาน รวมถึงอนาคตของ อีฟส์ บิสซูม่า และ โรดริโก้ เบนทานคูร์ ที่เหลือสัญญาไม่นาน
2. การสร้างความสามัคคีและแรงสนับสนุน: แฟรงค์จะต้องรับมือกับการเข้ามาคุมทีมที่เพิ่งประสบความสำเร็จในยุโรป และนักเตะส่วนใหญ่ต่างก็แสดงความรักและเคารพต่ออังเก้ พอสเตโคกลู การสร้างความเชื่อมั่นและแรงสนับสนุนจากนักเตะ แฟนบอล และบอร์ดบริหาร จึงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับเขา
3. ยกระดับผลงานพรีเมียร์ลีก: แม้การคว้าแชมป์ยุโรปจะสร้างความสุขมหาศาล แต่ผลงานในลีกที่จบอันดับ 17 คือจุดที่ต้องแก้ไข แฟรงค์มีภารกิจหลักในการพาทีมจบอันดับในลีกให้ดีขึ้น และต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นในบ้านให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นบททดสอบใหม่ที่สำคัญ
4. วัฒนธรรมองค์กรและแทคติกที่ยืดหยุ่น: แฟรงค์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้จัดการทีมที่ใกล้ชิดกับลูกทีมและมีทักษะในการสร้างแรงจูงใจสูง อดีตลูกทีมชี้ว่าเขาใส่ใจในตัวบุคคล ไม่ใช่แค่ผู้เล่น และมีความสามารถในการปรับแทคติกให้เข้ากับสถานการณ์และคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากปรัชญาการทำทีมที่ยึดติดของพอสเตโคกลู แม้การปรับตัวของแฟรงค์อาจต้องใช้เวลาเล็กน้อยดังเช่นช่วงเริ่มต้นกับเบรนท์ฟอร์ด แต่ความยืดหยุ่นนี้จะช่วยให้สเปอร์สสามารถรับมือกับโปรแกรมที่หนักหน่วงและการบาดเจ็บของผู้เล่นได้ดีขึ้น.
การมาถึงของโธมัส แฟรงค์ ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้ความท้าทายที่แตกต่างจากเดิม แฟนบอลต่างเฝ้ารอว่ากุนซือชาวเดนมาร์กผู้นี้จะสามารถนำ “ไก่เดือยทอง” กลับมาผงาดในลีกและรักษามาตรฐานในเวทียุโรปได้อย่างไร
