ประตูตีเสมอสุดดราม่าในช่วงนาทีสุดท้ายจากเจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ช่วยให้เอฟเวอร์ตันคว้าแต้มที่สมควรได้ในการปิดฉากเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์ครั้งสุดท้ายที่กูดิสันพาร์ค
ดูเหมือนว่าลิเวอร์พูลจะกำลังมุ่งหน้าสู่จุดนำ 9 แต้มที่ตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก ในขณะที่เกมอันดุเดือดกำลังเข้าสู่วินาทีสุดท้าย จนกระทั่งทาร์คอฟสกี้ซัดประตูตีเสมอให้ได้ ซึ่งได้ประตูจากผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (VAR) ตรวจสอบว่าล้ำหน้าและฟาวล์หรือไม่
ขณะที่อารมณ์กำลังเดือดดาล อับดุลลาเย่ ดูกูเร ได้เยาะเย้ยแฟนบอลลิเวอร์พูล และเผชิญหน้ากับเคอร์ติส โจนส์ ตัวสำรองของลิเวอร์พูล โดยผู้เล่นของทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันก่อนที่ทั้งคู่จะถูกไล่ออกจากสนาม
อาร์เน่ สล็อต นายใหญ่ของลิเวอร์พูล และซิปเก้ ฮูลชอฟฟ์ ผู้ช่วยของเขา ก็ถูกไล่ออกจากสนามเช่นกันหลังจบเกม โดยที่ลิเวอร์พูลยืนกรานว่าลูกยิงตีเสมอของทาร์คอฟสกี้ควรจะต้องถูกปฏิเสธเนื่องจากเป็นการพยายามสร้างสถานการณ์ก่อน
ทั้งหมดนี้หมายความว่าสนามกูดิสันพาร์คจบลงด้วยความยิ่งใหญ่ โดยทั้งเอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูลจบลงด้วยชัยชนะคนละ 41 นัดในเกมดาร์บี้แมตช์ที่เล่นในสนามกีฬาเก่าแก่ที่มีบรรยากาศบรรยากาศดีแห่งนี้
เอฟเวอร์ตันออกนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 11 ด้วยบรรยากาศที่เต็มอิ่มไปด้วยอารมณ์ เมื่อฟรีคิกของจาร์ราด แบรนธเวต ทำให้ลิเวอร์พูลไม่ทันตั้งตัว และเบโต้ก็ซัดผ่านอลิสซอนไปได้อย่างเฉียบขาด
การตอบสนองของลิเวอร์พูลเกิดขึ้นทันทีเมื่ออเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โหม่งบอลเข้าประตูตีเสมอจากการครอสของโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ในเวลาเพียงห้านาที
ในหม้อต้มที่กูดิสัน พาร์ค ซึ่งอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นทุกวินาที ซาลาห์กระโจนเข้าใส่ลูกสกัดของแบรนธเวต จนสามารถทำประตูได้เมื่อเหลือเวลาอีก 17 นาที ในขณะที่เอฟเวอร์ตันต้องสาปแช่งโชคชะตาของพวกเขา หลังจากดูคูเร่โหม่งพลาดโอกาสอันยอดเยี่ยม
จากนั้นที่กูดิสัน พาร์คก็มีช่วงเวลาดราม่าดาร์บี้แมตช์เป็นครั้งสุดท้ายที่จะอยู่ในความทรงจำไปอีกนานเมื่อทาร์คอฟสกี้ซัดประตูหน้าสนามกวาลาดิส สตรีท
ลิเวอร์พูลยังคงนำโด่งอยู่ 7 คะแนนบนตารางพรีเมียร์ลีก แต่เป็นเอฟเวอร์ตันที่พอใจกับผลการแข่งขันมากกว่า