อาร์เซนอลสร้างประวัติศาสตร์ใหม่! บุกดับ เรอัล มาดริด ถึงถิ่น

อาร์เซนอลสร้างประวัติศาสตร์ใหม่! บุกดับ เรอัล มาดริด ถึงถิ่น
วันเสาร์ 19 เมษายน 2025

19 เมษายน 2568 – อาร์เซนอล สร้างค่ำคืนแห่งความทรงจำที่แฟนบอลทั่วโลกจะไม่มีวันลืม! ทัพ “ปืนใหญ่” บุกไปหักปีก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ถึงถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยชัยชนะสุดดราม่า 2-1 (รวมผลสองนัด 5-1) ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 สร้างความฮือฮาไปทั่วยุโรป

เกมเต็มไปด้วยเหตุการณ์พลิกผัน ตั้งแต่ช่วงต้นเกม บูกาโย่ ซาก้า ดาวรุ่งของอาร์เซนอลพลาดจุดโทษแบบ “ปาเนนก้า” ที่ถูก ติโบ กูร์กตัวส์ เซฟไว้ได้ ก่อนที่ VAR จะริบคืนจุดโทษของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงเรอัล มาดริด ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลไม่เสียขวัญ และมาได้ประตูขึ้นนำในช่วงครึ่งหลัง จากการแก้ตัวของ ซาก้า

แม้ว่า วิลเลียม ซาลิบา จะพลาดท่าเสียประตูตีเสมอให้กับ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่ “ปืนใหญ่” ก็ยังคงเล่นด้วยความมั่นใจ และเป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี ที่สวมบทฮีโร่ ซัดประตูชัยในช่วงท้ายเกม ส่งให้อาร์เซนอลสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปรอพบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ถึงกับกล่าวว่า “นี่คือหนึ่งในค่ำคืนที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของผม เราเล่นกับทีมที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่สุด มันเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคนในรายการนี้ ประวัติศาสตร์ของเราในรายการนี้ยังสั้นนัก นี่เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของเราที่เราทำได้แบบนี้ และเราต้องต่อยอดจากมัน”

ชัยชนะครั้งนี้ได้รับการยกย่องจากหลายฝ่าย รวมถึง ธีโอ วัลคอตต์ อดีตกองหน้าอาร์เซนอล ที่กล่าวว่า “สภาพจิตใจของนักเตะอาร์เซนอลเหล่านี้พร้อมสำหรับเกมใหญ่แล้ว ช่างเป็นผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นที่เป็นคำประกาศของอาร์เซนอลจริงๆ” โดยเฉพาะ เดแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นตลอดทั้งสองเลก

แม้จะมีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บหลายราย และต้องใช้ มิเกล เมริโน่ กองกลางสารพัดประโยชน์ เล่นในตำแหน่ง “False Nine” แต่การเตรียมตัวอย่างละเอียดของ อาร์เตต้า รวมถึงการขอคำแนะนำจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา อดีตเจ้านาย ก็ส่งผลให้ทีม “ปืนใหญ่” สามารถล้มยักษ์อย่าง เรอัล มาดริด ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ในค่ำคืนที่น่าจดจำนี้ อาร์เซนอลต้องเสีย โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางตัวรับ ที่ได้รับใบเหลือง ทำให้เขาจะพลาดเกมในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก

ชัยชนะเหนือ เรอัล มาดริด ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพัฒนาการของอาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่สามารถยกระดับทีมจากทีมระดับกลางๆ ขึ้นมาเป็นทีมที่พร้อมท้าทายในระดับสูงสุด โดยสถิติการพบกับทีม “บิ๊กซิกซ์” ในพรีเมียร์ลีกในช่วงสองปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่แพ้ใคร ชนะ 12 เสมอ 8 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง

ขณะนี้ แฟนบอล “ปืนใหญ่” ทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยว่า ทีมรักของพวกเขาจะสามารถก้าวข้าม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ได้หรือไม่

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของอาร์เซนอลในครั้งนี้ ถือเป็น “ชัยชนะแห่งคำประกาศ” ที่ส่งสัญญาณไปยังทีมอื่นๆ ในยุโรปว่า พวกเขากลับมาแล้ว และพร้อมที่จะท้าทายเพื่อบัลลังก์แชมป์ยุโรปอย่างเต็มตัว

# ที่เกี่ยวข้อง