ความหวังอันน้อยนิดของอาร์เซนอลในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่อแววล่มสลาย หลังทำได้เพียงบุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ “ปืนใหญ่” ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ห่างไกลออกไปอีก และ “หงส์แดง” ต้องการอีกเพียง 11 คะแนนจาก 8 นัดที่เหลือ ก็จะการันตีบัลลังก์แชมป์
เกมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกเป็นไปอย่างอึดอัด แต่แล้วในนาทีที่ 34 อาร์เซนอลก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อิดริสซ่า กูเย่ กองกลางเอฟเวอร์ตัน โหม่งสกัดพลาด บอลตกมาเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อนจะจ่ายให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ด แปเข้าไปอย่างเฉียบคม อย่างไรก็ตาม ทรอสซาร์ด พลาดโอกาสทองในการบวกประตูที่สองในช่วงท้ายครึ่งแรก เมื่อ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเอฟเวอร์ตัน เซฟลูกยิงจ่อๆ ของเขาไว้ได้
เข้าสู่ครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตันกลับมาด้วยความมุ่งมั่น และมาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วในนาทีที่ 46 จากจุดโทษ เมื่อ ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ ไปทำฟาวล์ แจ็ค แฮร์ริสัน ในเขตโทษ และ อิลิมาน เอ็นดิยาย สังหารเข้าไปไม่พลาด แม้ว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” จะพยายามบุกเพื่อหวังประตูชัย แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับอาร์เซนอลได้ ขณะที่ “ปืนใหญ่” เองก็สร้างโอกาสได้น้อยเช่นกัน ทำให้จบเกมด้วยผลเสมอ
เกมนี้ยังแสดงให้เห็นว่า มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ให้ความสำคัญกับเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่จะพบกับ เรอัล มาดริด ในวันอังคารหน้าอย่างชัดเจน โดยเขาตัดสินใจส่งผู้เล่นตัวหลักอย่าง บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และ โธมัส ปาร์เตย์ เป็นตัวสำรอง
ผลเสมอในเกมนี้ถือเป็นความเสียหายต่อความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของอาร์เซนอลอย่างมาก ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อเก็บแต้ม แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากโซนตกชั้นพอสมควรแล้วก็ตาม
